ปัญหาคอมพิวเตอร์และอินเตอร์เนตที่คุณควรรู้

ถ้าคุณใช้อินเตอร์เนตเสมอ, ความปลอดภัยควรจะเกี่ยวข้องกับคุณ น่าแปลกที่ 50 เปอร์เซ็นต์ของธุรกิจขนาดเล็กและขนาดกลางในโลกออนไลน์ไม่มีมาตรการความปลอดภัยที่เหมาะสมไว้ ถ้าในเวบไซท์ธุรกิจไม่ได้มีความปลอดภัยเช่นนั้น, คุณจะแน่ใจได้เลยว่าอัตราผู้ใช้งานเวบไซท์นั้นจะไม่ดีนัก การก่อวินาศกรรมทางอิเลคโทรนิคและซอฟท์แวร์จารกรรมข้อมูลเป็นเรื่องจริงและน่ากลัวมาก การจารกรรม ID สำหรับผู้ใช้ภายในบ้านยังเป็นความเสี่ยงสูง ทุกๆครั้งที่คุณเข้าสู่ระบบและท่องเวบไซท์ คุณจะทำให้ตัวคุณเองและคอมพิวเตอร์ของคุณเข้าสู่อันตราย ความรู้เกี่ยวกับเรื่องนี้และใช้มาตรการป้องกันจากอุบัติภัยนี้สามารถทำได้

เรียนรู้พื้นฐาน RSS

เรียนรู้พื้นฐาน RSS
โดย : John Ugoshowa

อะไรคือ RSS?
คุณน่าจะเคยพบเห็นตัวอักษรย่อสามตัวนี้ในเวบเซิฟของคุณ RSS มาจากคำว่า Really Simple Syndication หรือ Rich Site Summary; Syndication หมายถึง การจัดพิมพ์บทความซึ่งมาจากแหล่งข้อมูลอื่นเช่นเวบไซท์

RSS จึงหมายถึงว่าการเผยแพร่การปรับปรุงเกี่ยวกับเวบไซท์ มันอาจจะมีหรือไม่มีข้อสรุปและรูปภาพในการโพสต์ล่าสุด แต่สิ่งเหล่านี้ก็ได้จัดเตรียมข้อสรุปไว้ให้ผู้ใช้งานได้ดูบทความที่สรุปซึ่งพวกเขาจะตัดสินใจภายหลังถ้าพวกเขาต้องการเข้าถึงข้อมูลเต็มในเวบไซท์ โดยปกติแล้ว RSS จะบรรจุหัวเรื่องที่ปรับปรุงจากเวบไซท์นั้น และจะเป็นทางเชื่อมไปสู่แหล่งของข้อมูลในเวบไซท์นั้นด้วย

อะไรคือประโยชน์ของ RSS?

มันอยู่ใน BLOG

มันอยู่ใน BLOG
โดย : Nicholas Nanton

ถ้าคุณมองเห็นการเจริญเติบโตของธุรกิจคุณ แล้ว Blog ก็คือเครื่องมือที่ยอดเยี่ยมที่จะเพิ่มในหีบเครื่องมือของคุณ ในบทความนี้เราจะกล่าวถึงพื้นฐาน Blog และคุณสามารถใช้ในธุรกิจคุณอย่างไร

ฟรีแวร์ ปะทะ ฟรีซอฟแวร์

ฟรีแวร์ ปะทะ ฟรีซอฟแวร์
โดย : Freeware Network

มีความสับสนนิดหน่อยในการพิจารณาถึงความสัมพันธ์กันระหว่างฟรีแวร์และฟรีซอฟแวร์ ฟรีแวร์ที่มีการอ้างสิทธิ์จะไม่ใช่ฟรีซอฟแวร์ มีหรือไม่มีความแตกต่างระหว่างทั้งสองอย่างนั้น

Web 2.0 - อนาคตคอยอยู่

Web 2.0 - อนาคตคอยอยู่
โดย : Gabriel Adams

ด้วยทั้งที่ Web 2.0 ที่นำเสนอการขยายเส้นทางการใช้อินเตอร์เนตของคุณในขณะนี้ คุณอาจจะคิดว่ามันเป็นเครื่องมือที่สุดยอดจริงๆ อย่างไรก็ตาม นี่เป็นเพียงแค่การเริ่มต้น ตั้งแต่มีการใช้การแบ่งปันข้อมูลข่าวสาร ผู้ใช้จะเริ่มคุ้นเคยกับการทำงานของ Web 2.0 แล้ว จริงๆแล้วผู้ใช้ส่วนใหญ่จะไม่เห็นความแตกต่างนัก เพราะการทำงานหลักจะทำงานอยู่เบื้องหลัง ตราบเท่าที่เขาใช้มันเหมือนกับ MySpace และ Skype ผู้บริโภคก็จะมีความสุข สำหรับการใส่ใจเทคโนโลยที่เพิ่มมากขึ้น Web 2.0 คือ การเปลี่ยนแปลงอย่างแท้จริง