13 May 2007

ฟรีแวร์ ปะทะ ฟรีซอฟแวร์

ฟรีแวร์ ปะทะ ฟรีซอฟแวร์
โดย : Freeware Network

มีความสับสนนิดหน่อยในการพิจารณาถึงความสัมพันธ์กันระหว่างฟรีแวร์และฟรีซอฟแวร์ ฟรีแวร์ที่มีการอ้างสิทธิ์จะไม่ใช่ฟรีซอฟแวร์ มีหรือไม่มีความแตกต่างระหว่างทั้งสองอย่างนั้น

ถ้าคุณถามถึงผู้ใช้อินเตอร์เนตโดยปกติ พวกเขาจะบอกว่ามันเป็นสิ่งเดียวกัน ฟรีแวร์เป็นเพียงแค่การประกอบกันเข้าและรูปแบบสั้นๆของฟรีซอฟแวร์ เป็นเพียงแค่ "Infomercial" คือ การรวมกันของข้อมูลและธุรกิจ

ถ้าคุณถามผู้คนที่เกี่ยวข้องกับโครงการโอเพ่นซอร์ส พวกเขาจะบอกว่า ฟรีซอร์ฟแวร์ไม่ใช่สิ่งเดียวกับฟรีแวร์

ฟรีแวร์
ตามที่ American Heritage Dictionary กล่าวไว้ ฟรีแวร์คือ " ซอร์ฟแวร์ที่สามารถใช้งานได้อย่างอิสระ โดยปกติจะอยู่บนอินเตอร์เนต "

ตามที่ Jargon File กล่าวไว้ ฟรีแวร์คือ " ฟรีซอร์ฟแวร์ บ่อยครั้งที่เขียนโดยผู้ที่มีความกระตือรือร้นและแจกจ่ายโดยกลุ่มผู้ใช้, หรือผ่านทางจดหมายอีเล็คโทรนิคส์, บอร์ด bulletin, Usenet, หรือสื่ออีเล็คโทรนิคส์อื่นๆ "

ตามที่ Wikipedia.org กล่าวไว้ " ข้อตกลงฟรีแวร์ถูกกำหนดโดย Andrew Fluegelman เมื่อเขาต้องการขายโปรแกรมเกี่ยวกับสื่อสารที่ชื่อว่า PC-Talk ที่เขาได้สร้างไว้ แต่เขาไม่คิดจะใช้วิธีการขายของแบบเดิมๆเพราะมูลค่าของโปรแกรมนั้นเอง " อย่างไรก็ตาม " Fluegelman ได้ทำการแจกจ่ายผ่านกระบวนการอ้างอิงเช่น Shareware " และที่ Jargon File เพิ่มว่า: "ณ. ครั้งหนึ่ง `ฟรีแวร์’ คือเครื่องหมายการค้าของ Andrew Fluegelman…" แต่ " มันไม่ได้ถูกบังคับใช้หลังจากการหายตัวไปอย่างลึกลับของเขาและถูกสันนิษฐานว่าเสียชีวิตในปี 1984 "

ฟรีแวร์อาจถูกกำหนดเป็นซอร์ฟแวร์ลิขสิทธิ์ซึ่งถูกแจกจ่ายโดยไม่คิดมูลค่าและอาจจะใช้ได้ไม่จำกัด นี่เป็นข้อแตกต่างกว่า Shareware, Demo หรือ Trialware ซึ่งผู้ใช้จะต้องจ่ายหลังจากได้ทดลองใช้งานแล้ว

มีความผันผวนมากมายที่จะพิจารณาว่าฟรีแวร์คืออะไร บางอย่างที่ผันผวนเกี่ยวพันกับข้อตกลงการอนุญาติซึ่งจำกัดการใช้ซอฟร์แวร์สำหรับส่วนตัว, ไม่เป็นไปเพื่อการค้า, เพื่อการศึกษา ฯลฯ ความผันผวนอื่นๆเกี่ยวพันกับส่วนติดต่อกับผู้ใช้งานและความสามารถในการใช้งานที่มีมาให้ ตัวอย่างเช่น ฟรีแวร์อาจมีโฆษณาที่อยู่บนหน้าจอใช้งานซึ่งเราอ้างอิงเป็นพวก Adware, หรือมีการเตือนเป็นครั้งๆว่าคุณอาจจะต้องช่วยบริจาคหรือปรับปรุงโปรแกรมฟรีแวร์ไปสู่รุ่นที่ต้องจ่ายเงินซึ่งเราอ้างอิงเป็นพวก Nag หรือ Nagware โดยปกติการปรับปรุงรุ่นจะประกอบไปด้วยความสามารถที่เพิ่มขึ้น, ทำให้คุณเป็นอิสระจากโฆษณา หรือประกอบไปด้วยทั้งสองอย่าง บางครั้งรุ่นที่ต้องจ่ายเงินจะมีการสนับสนุนฟรี, ซึ่งโปรแกรมฟรีอาจจะไม่ให้สิทธิ์นั้นกับผู้ใช้งาน

แอปปริเคชั่นที่มีหน้าที่ตรงกับนิยามข้างต้น ตัวอย่างเช่น Opera (Browsers), Download Accelerator (Download Managers), RoboForm (Browser Tools) และอีกมากมาย

อีกอย่างหนึ่งเรายังมีฟรีซอร์ฟแวร์

ฟรีซอร์ฟแวร์
ตามที่ Free Software Foundation กล่าวไว้ " ฟรืซอร์ฟแวร์คือเรื่องราวของความเป็นอิสระ เพื่อความเข้าใจถึงแนวคิด คุณต้องคิดถึงคำว่า "อิสระ" เช่นในคำว่า "การพูดที่อิสระ" ไม่ใช่ใน "เบียร์ฟรี" "

" ฟรีซอร์ฟแวร์คือเรื่องราวของความอิสระของผู้ใช้ที่ใช้งาน, คัดลอก, แจกจ่าย, เรียนรู้, เปลี่ยนแปลงและแก้ไขซอฟแวร์นั้น "

เบื้องหลังปรัชญา Free Software Foundation และ Free Software Movement คือซอร์ฟแวร์นั้นควรเป็นคุณสมบัติของคุณและคุณมีสิทธิในการปรับแต่งและดัดแปลงอย่างที่คุณต้องการ เป็นทางเดียวกับที่คุณวาดบ้านของคุณ, เปลี่ยนรถและล้อของคุณ, คุณมีสิทธิบนซอร์ฟแวร์ของคุณ ผู้มีสิทธิในซอร์ฟแวร์ไม่อนุญาติสิ่งนี้และถ้าคุณต้องการที่จะปรับแต่งคุณจำเป็นต้องถามผู้พัฒนาเพื่อปรับแต่งมันซึ่งอาจจะมีมูลค่ามหาศาลหรืออาจจะไม่มีเลย( คุณเคยพยายามถามบริษัทที่ขายระบบปฎิบัติการเพื่อปรับแต่งตามความต้องการของคุณไหม? )

อันที่จริง เมื่อคุณซื้อซอร์ฟแวร์เอกชนคุณไม่ได้กลายเป็นเจ้าของซอร์ฟแวร์นั้น คุณเพียงแค่จ่ายเพื่อจะได้สิทธิในการใช้ และแม้แต่การใช้ก็ถูกจำกัดจำนวนสถานีงานหรือแม้แต่เพื่อระบุอันหนึ่ง

ฟรีซอร์ฟแวร์ส่วนใหญ่ถูกแจกจ่ายภายใต้สัญญา GPL (General Public License) ซึ่งหมายถึงว่าคุณสามารถแก้ไขและแจกจ่ายซอร์ฟแวร์ซ้ำได้แต่ภายใต้การจำกัดด้วยการบรรจุเครดิตของผู้พัฒนาที่ผ่านมาด้วย คุณจะต้องแจกจ่ายซอร์ฟแวร์ภายใต้เงื่อนไขของ GPL อย่างดีซึ่งหมายถึงว่าคุณไม่สามารถเปลี่ยนแปลงไปเป็นซอร์ฟแวร์เอกชนได้

บางทีฟรีซอร์ฟแวร์ที่มีชื่อเสียงที่สุดก็คือระบบปฎิบัติการลินุกซ์ แต่ก็มีแอปปริเคชั่นฟรีซอร์ฟแวร์ที่มีชื่อเสียงอื่นๆอีกเช่น Firefox (Browser), Apache (web server), Limewire (File Sharing/Peer to Peer), และอื่นๆอีกมาก

สรุป
เมื่อคุณได้เรียนรู้เงื่อนไขทั้งสองแล้วคือ ‘ฟรีแวร์’ และ ‘ฟรีซอร์ฟแวร์’ คุณอาจจะพบว่ามีข้อแตกต่างในการกำหนด อย่างไรก็ตามในข้อปฎิบัติมันยากที่จะแยกเงื่อนไขทั้งสองได้ ผู้ใช้อินเตอร์เนตส่วนใหญ่จะไม่รู้ถึงความแตกต่างระหว่างเงื่อนไขทั้งสองอย่างนั้น สำหรับพวกเขา ฟรีแวร์มีความหมายเหมือนกับฟรีซอร์ฟแวร์ มีซอร์แวร์มากมายที่ตกข้อกำหนดของซอร์แวร์ตามที่ได้กล่าวไว้ข้างต้น ถูกนำเสนอโดยผู้จัดพิมพ์ฟรีซอร์ฟแวร์นั้นซึ่งแน่ใจได้ว่าไม่ถูกต้อง ดังนั้นฟรีซอร์ฟแวร์อาจหมายถึงการคิดค่าใช้จ่ายอย่างอิสระ

เมื่อคุณเลือกแอปปริเคชั่นซอร์ฟแวร์ คุณจำเป็นต้องแน่ใจว่ามันได้ตอบสนองความต้องการของคุณและคุณอาจต้องคำนึงถึงขอบเขตและข้อจำกัดที่มีมาให้ ถ้าคุณพบซอร์ฟแวร์ที่เยี่ยมซึ่งมีโฆษณา(Adware)อยู่บนหน้าจอใช้งาน ทำไมคุณไม่ใช้ล่ะถ้าโฆษณานั้นไม่รบกวนคุณ ถ้าโฆษณานันสร้างความรำคาญ คุณสามารถจ่ายค่าธรรมเนียมและกำจัดมันออกไปได้ ถ้าคุณพบแอปปริเคชั่นซึ่งตกข้อกำหนดของฟรีซอร์แวร์ เช่นคำอธิบายข้างต้น เพียงแค่ทำให้แน่ใจว่าได้มีการรักษาการใช้งานและสนับสนุนโดยการใช้งานอย่างกว่างขวาง

ที่เครือข่ายฟรีแวร์เราไม่แบ่งแยกระหว่าง ‘ฟรีแวร์’ และ ‘ฟรีซอร์ฟแวร์’ อะไรก็ตามที่มันถูกกำหนด นโยบายของเราจะประกอบอยู่ในฐานข้อมูลแอปปริเคชั่นซอร์แวร์ซึ่งคุณอาจจะดาวน์โหลดได้ฟรีและใช้ได้ไม่จำกัด(ถึงแม้ว่าจะมีข้อจำกัดหรือขอบเขตอื่นๆ) ในขณะเดียวกันเราไม่ทนกับ Spyware และจะไม่รอบรู้เรื่องใดๆที่รวมถึง Spyware

ในการจัดเตรียมบทความนี้ Freeware Network ได้ใช้แหล่งข้อมูลจาก:
Free Software Foundation
Wikipedia.org
Dictionary.com

No comments: